เพราะลูกน้อยยังอยู่ในวัยซุกซน ปีนป่าย และหยิบจับของเข้าปาก ทำให้เจ็บป่วยเอาง่ายๆ คุณแม่อย่างเราจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับทุกอาการป่วยที่อาจเกิดขึ้น สิ่งแรกที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม และต้องเตรียมติดบ้านไว้ก็คือ ยา-อุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เพราะยามลูกป่วย เค้าจะงอแง และติดมือเป็นพิเศษ คุณแม่แทบจะห่างจากลูกน้อยไม่ได้เลย การจะไปหาซื้อยาในยามที่ต้องการใช้นั้นแสนยากเย็น ดังนั้น การเตรียมพร้อมไว้ก่อนจึงดีที่สุด เอาล่ะ มาดูกันค่ะ ว่า ยาที่ควรมีติดบ้าน สำหรับลูกน้อย มีอะไรบ้าง แชร์ประสบการณ์ตรงจากเจ้าของร้าน Babekits เลยจ้า
ยาที่ควรมีติดบ้าน สำหรับลูกน้อย คุณแม่มีครบรึยังค่ะ ??
ยาแก้ปวด ยาลดไข้ เป็นยาชนิดแรกที่คุณแม่จำเป็นต้องติดบ้านไว้ ใช้เมื่อลูกน้อยมีอาการปวดศรีษะ ปวดฟัน และลดไข้ คุณแม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มีแบบหยด สำหรับทารกแรกเกิด และชนิดน้ำเชื่อมสำหรับเด็กที่โตขึ้นมา ที่บ้านจะเลือก ซาร่า เพราะมีรสหวาน และมีกลิ่นผลไม้ เอาไว้หลอกล่อเจ้าตัวน้อยให้ทานได้ง่ายขึ้น ส่วนแบบหยดสำหรับทารกนั้น เป็นเทมปร้า ซึ่งจะมีรสขมกว่า แต่เด็กในวัยนี้ ยังไม่รู้รสชาติมากนัก เลยไม่มีปัญหาค่ะ ยากลุ่มนี้ต้องทุก 4-6 ชั่วโมง และไม่ควรทานติดต่อกันเกิน 5 วัน เพราะจะมีผลเสียต่อตับของลูกน้อยได้
ยาลดน้ำมูก แก้แพ้อากาศ ใช้เมื่อลูกน้อยเป็นหวัด มีน้ำมูกไหล จาม หรือเมื่อแพ้อากาศเย็น ยาประเภทนี้ จะทำให้น้ำมูกแห้งกรังอยู่ในโพรงจมูก จึงไม่เหมาะกันเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ที่ยังสั่งน้ำมูกเองไม่ได้ ทางที่ดี ควรจะใช้การล้างจมูก ช่วยขับน้ำมูกออกมาจะดีกว่า หรือถ้าคุณแม่ยังไม่มั่นใจในฝีมือการล้างจมูกของตัวเอง ก็ใช้ลูกยางดูดน้ำมูกไปก่อน ก็พอจะบรรเทาลงได้
ยาแก้ไอ ละลายเสมหะ ควรปรึกษาเภสัชกร เลือกแบบที่สามารถใช้กับเด็ก คุณแม่ควรใช้ยากลุ่มนี้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น เนื่องจากยากลุ่มนี้จะไปกดอาการไอไว้ ทำให้เจ้าตัวน้อยไม่มีการไอ เพื่อขับเสมหะออกมา ดังนันเสมหะที่มีอาจไปสะสมในปอด ซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อที่ปอดได้ เสมหะที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่มาจากน้ำมูก ดังนั้น คุณแม่ควรแก้ที่สาเหตุ โดยการล้างจมูก จึงจะดีที่สุด อาการไอ และมีเสมหะ ก็จะค่อยๆดีขึ้นเอง ตามลำดับ
ยาทากันผื่นผ้าอ้อม สำหรับบ้านไหนที่ลูกน้อยยังเล็ก ยังใช้ผ้าอ้อม หรือแพมเพิสอยู่ ก็ควรจะต้องมียาสำหรับทาผื่น ที่อาจเกิดขึ้นเพราะความอับชื้นบนผิวลูกน้อย ภายใต้ผ้าอ้อม หรือแพมเพิส คุณแม่สามารถหาได้ทั่วไปตามร้านขายยา
น้ำเกลือ และอุปกรณ์สำหรับล้างจมูก ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่คุณแม่จะต้องมีติดบ้านไว้ การล้างจมูก มีประโยชน์มาก นอกจากจะขับน้ำมูก ยามลูกน้อยเจ็บป่วยแล้ว หากคุณแม่หมั่นล้างจมูกให้ลูกน้อยทุกวัน จะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยของลูกน้อยได้อีกด้วย เพราะ น้ำเกลือช่วยชะล้างสิ่งสกปรก และเชื้อโรคที่ติดอยู่ภายในจมูกออกไป ก่อนที่จะเข้าสู่ร่างกายลูกน้อย
ยาขับลม ยาแก้ปวดท้อง ที่นิยมใช้สำหรับทารก และเด็ก คือ มหาหิงค์ ไม่ได้ให้ทานนะคะ แต่ให้ทาที่หน้าท้อง รอบๆสะดือ กลิ่นน้ำมันหอมระเหยของมหาหิงคุ์ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร ทำให้ลูกน้อยสบายท้องขึ้น หรืออาจให้เป็นยากิน เช่น ยาธาตุน้ำขาว ยาธาตุน้ำแดง ก็ได้
ยาแก้ท้องเสีย เกลือแร่ โดยปกติลูกน้อยมักจะหายจากอาการท้องเสียได้เอง แต่ หากอาการรุนแรง มีอาเจียน ปวดท้องบิด อุจจาระมีมูกเลือด ก็จำเป็นต้องใช้ยาแก้ท้องเสีย รวมถึงให้ดื่มน้ำเกลือแร่ เพื่อป้องกันการขาดน้ำด้วย
ยาแก้ท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์ และใช้ในกรณีจำเป็นเท่านั้น เพราะยาประเภทนี้ อาจทำให้ระบบลำไส้ของลูกน้อยทำงานผิดปกติได้ หากทานบ่อยๆ ทางที่ดี คุณแม่ควรเน้นให้ลูกทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำสะอาดให้มากจะดีที่สุด
ยาแก้คัน อาจเกิดจากอากาศ หรือ แมลงสัตว์กัดต่อย แม้ว่าคุณแม่จะพยายามป้องกันเจ้าตัวเล็กจากยุง หรือแมลงทุกชนิด แต่ลูกน้อยนั่นแหละ ที่คอยวิ่งเข้าหาเมื่อคุณแม่เผลอ ดังนั้น คุณแม่เตรียมยาทาหลังจากโดนกัดได้เลยค่ะ ที่นิยมจะเป็น คาราไมน์ แต่ที่บ้านจะใช้ ซิสทราล ครีม (Systral Cream) รอยโดยกัด ยุบไว โดยไม่ทิ้งรอยดำไว้ด้วยค่ะ
ยาแก้แผลฟกช้ำ อีกยาทาที่ต้องมีติดบ้าน เพราะลูกน้อยที่อยู่ในวัยซุกซน จะเดิน จะวิ่ง โดยไม่ระวัง แน่นอนว่าต้องได้รอยฟกช้ำดำเขียวไม่เว้นแต่ละวัน ที่บ้านใช้ เรพาริล เจล (Reparil Gel) ทาทันทีหลังเกิดเหตุ คลึกทั่วรอยให้ทั่ว รอยยุบไวมากค่ะ อันนี้คอนเฟริ์ม ประสบการณ์ตรงเลย
ยารักษาแผลในช่องปาก ลูกน้อยมักมีแผลในปาก ไม่ว่าจะเป็นเพราะมีการชน กระแทกมา หรือแผลอาจเกิดขึ้นเองเพราะร้อนใน หลังจากป่วย และนี่เป็นอีกสาเหตุทีลูกน้อยเบื่ออาหาร หรือทานอาหารได้น้อยลง คุณแม่จึงควรหายารักษาแผลในช่องปาก พวก ยาม่วง หรือยาป้ายปากติดไว้ เพื่อให้แผลหายได้ไวขึ้น ลูกน้อยจะได้กลับมาทานอาหารได้เหมือนปกติเร็วๆ
ยารักษาแผลสด ไว้ทำแผลให้เจ้าตัวเล็ก หลังจากไปซุกซนจนได้รอยแผลกลับมา คุณแม่ควรลางแผลด้วยน้ำเกลือ (เป็นตัวเดียวกับที่เตรียมไว้ล้างจมูก) ก่อน แล้วใส่ยาพวก เบตาดีน จะไม่แสบเหมือนยาแดง หรืออาจทาด้วยครีมขี้ผึ้งที่ผสมยาฆ่าเชื้อ จากนันค่อยปิดแผลด้วย พลาสเตอร์ยา ผ้าก๊อซ
อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับใช้ในยามเจ็บป่วย เช่น ปรอทวัดไข้ แนะนำให้เป็นแบบดิจิตอล ไว้หนีบใต้รักแร้ จะใช้ง่าย สะดวกค่ะ และ เจลประคบร้อน-เย็น เอาไว้ใช้ยามตัวร้อน หรือประคบหลังจากหกล้ม หัวโน แมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยลดอาการบวม แดง คัน ค่ะ
ทีนี้ ลูกน้อยจะเจ็บป่วยมารูปแบบไหน คุณแม่ก็พร้อมเป็นพยาบาลจำเป็น แก้ไขอาการเบื้องต้นก่อนได้แล้วค่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมดูฉลาก และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงเตรียมสุขภาพของตัวคุณแม่เอง ให้พร้อมรับมืออาการป่วยของเจ้าตัวน้อยด้วยนะคะ
เขียนโดย www.babekits.com